“พี่กล้วย ชอบทำแลบ วิจัย กับการเรียนต่อปริญญาเอกที่ญี่ปุ่น”
ถ้าพูดถึงพี่กล้วยแล้ว พี่กล้วยคือชนชั้นเทพของเคมีหรือเปล่าคะ ต้องเก่งมากแน่เลย ถึงได้ไปเรียนต่อถึงปริญญาเอก
อาจารย์ได้รีวิวพี่กล้วยขณะเรียนว่า พี่กล้วยเป็นชนชั้นประชาชนค่ะ ตั้งใจเรียนอยู่ประมาณนึง แต่ก็สนุกสนาน มีเพื่อน มีความฝัน มีเที่ยวเล่น ตอนเรียน ไม่ได้เรียนอย่างเดียว โปรเจ็คอยู่แลบอาจารย์ชลดาค่ะ ที่สำคัญคือความมุ่งมั่น พี่กล้วยมาเต็มค่ะ
จบแล้วเรียนต่อเลยไหมคะ อะไรที่ทำให้ตัดสินใจเรียนแทนทำงาน?
จบแล้วเรียนต่อเลยค่ะ ตอนใกล้ๆจบ ตอนนั้นก็ไม่รู้จะเอาไงต่อดีกับชีวิต รู้สึกว่าการทำงานโรงงาน บริษัท ยังไม่ใช่สายที่อยากทำ พี่รู้ตัวค่อนข้างเร็วค่ะ ว่าอยากทำงานแบบไหน อยากเป็นอะไร อยากได้เงินนะคะ แต่ก็อยากเรียนด้วยเหมือนกัน แบบเราชอบทำงานวิจัย ก็เลยหาทุนที่สนใจค่ะ จนได้ไปสมัครเรียนโทกับทุนของ สวทช ที่ MOU กับมหาวิทยาลัย ก็คือ TAIST-Tokyo tech SERE program ที่ให้เงินเดือนแล้วก็ค่าเทอม ต่างๆ (ทุนนี้ เป็นทุนที่ครอบคลุมค่าเรียน แล้วก็เงินเดือน) ถือว่าโชคดีมากเลย การเรียนตั้งแต่ปตรี-ปโท ทำงานหนักแต่ให้ประสบการณ์เยอะมาก จนเราเป็นเราทุกวันนี้ค่ะ
มาเรียนเอกได้ยังไง ทำไมถึงตัดสินใจเรียนเอกต่อ?
จากคนนที่เรียนปโทอยู่นั้นแหละค่ะ สังคมรอบตัวผลักดันและช่วยเหลือ ตอนนั้นจริงๆการเรียนเอกไม่มีในหัวเท่าไหร่ค่ะ มันสูงเกินไป จนพี่ๆในแลปถามเราว่าเราอยากเป็นอะไร เห็นเราทำงานวิจัยละมีความสุข มีเอนเนอจี้ เราก็บอกว่า จริงๆเราอยากเป็นอาจารย์นะ เราชอบสอนและก็ชอบทำวิจัยด้วย เขาก็เรียนผลักดันแนะนำให้เราได้มาเรียนเอกค่ะ อาจารย์ที่เป็น Supervisor แนะนำทุนนี้ให้ได้สมัคร
สมัครทุนเรียนต่อยากไหมคะ ต้องทำอย่างไรบ้าง?
ทุนที่พี่สมัครคือ MEXT Schorlaship via University Recommend ค่ะ มีทั้งศึกษาต่อปริญญาโทและปริญญาเอกที่ญี่ปุ่น คือเป็นการสมัครผ่านมหาวิทยาลัยโดยเราต้องติดต่ออาจารย์ที่อยากทำด้วยก่อน ว่าเราอยากจะทำอะไร หรือเอาแลปที่เขาทำอยู่ มาต่อยอดและสร้างอะไรให้กับเรา เป้าหมายการทำวิจัยในระยะสามปีคืออะไร ต้องวางแผนค่อนข้างเยอะค่ะตรงนี้ แต่มันไม่ได้ยากขนาดนั้น ส่วนใหญ่ต้องศึกษางานเขาก่อนจากการอ่านเปเปอร์ แล้วก็ใช้ปสก.ของเราว่าเราจะทำอะไรจากงานของเขาได้บ้าง สิ่งที่เขามีอยู่อะไรหรือข้อจำกัด แล้วต้องพัฒนาอะไรให้มันเกิดเป็นสิ่งใหม่ๆค่ะ ส่วนอื่นๆที่ต้องเตรียมก็มีคะแนนภาษาอังกฤษ เกรด แล้วก็ใบรับรองทั่วไปค่ะ
เรียนที่ญี่ปุ่นยากไหมคะ การทำงานเหมือนที่ไทยไหม?
สิ่งนี้นี่แหละค่ะเป็นความยากอย่างหนึ่งเลย การทำงานที่นี่ไม่เหมือนที่ไทยค่ะ ทุกอย่างมีขั้นตอน แบบต้องผ่านคนนั้นหรือคนนี้ การทำงานค่อนข้างหนัก สิ่งเก่าไม่เอา ไม่ใหม่ไม่รู้จะทำไปทำไม เวลาศึกษาอะไรทีก็คือศึกษาลึกมาก แบบแค่การเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย ก็คือแตกต่างค่ะ อาจารย์ที่นี่คือเขาแบบถ้ามีผลก็ต้อง Evaluate ผลแบบเชิงลึกไปเลย เป็นความท้าทายใหม่มาก เหนื่อยสุดๆ พอเป็น ปเอก แล้วต้องทำเองหมดทุกอย่าง ตั้งแต่ออกแบบงาน จนถึง เขียนเปเปอร์ เช็ค ส่งตีพิมพ์ ทำรูป เขาให้เราคิดเองหมดเลยค่ะ ไม่มีช่วย แค่ตรวจเท่านั้น แล้วก็ที่นี่เด็กญี่ปุ่นเก่งมาก ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ดูแลแลปและอื่นๆ เลย
เคยมีช่วงที่รู้สึกท้อบ้างไหมคะ ระหว่างเรียน?
พูดตามตรงก็สุดๆค่ะ ระหว่างเรียน Burn outed ไปหลายรอบมาก โฮมซิกสุดๆ คิดถึงบ้าน คิดถึงแมว (พี่เลี้ยงแมวด้วยนะตัวนึง) ก็เลยคิดถึงเขามากเป็นพิเศษค่ะ
การเรียนป.เอก สิ่งสำคัญคือกำลังใจมากๆ เราเหนื่อย เราท้อ มีเพื่อนมีครอบครัว อาจารย์คอยให้กำลังใจ เป็นสิ่งที่ดีมากๆค่ะ ขอบคุณตัวเองที่เจอสังคมดีๆ เพื่อนดีๆมาตลอด แล้วก็นอกจากนี้ เวลาเหนื่อยจากงานก็ไม่ทำงานแล้วค่ะ ไปเที่ยว ฉลอง (แลปที่นี่ฉลองบ่อยมาก ตอนปาร์ตี้อาจารย์เป็นกันเองแบบสุดๆงานก็คืองาน ปาร์ตี้ก็คือปาร์ตี้เลยค่ะ) พี่ไปเที่ยวมาหลายที่มาก คิดแค่ว่าจะไปคนเดียวหรือไปกับเพื่อนไม่สำคัญ ขอแค่เก็บประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด
น้องๆ เพื่อนๆ พี่ๆ คนไหนมีความฝัน อยากเรียนต่อ ไม่ว่าจะที่ไหนก็มาปรึกษาได้นะคะ ยินดีให้คำแนะนำทุกๆอย่างเลย แอดเฟส ทักมาได้ตลอดค่ะ